สวัสดีครับ ผมมีคำถามถามท่านผู้รู้นิดหน่อยครับ
1 ที่ดินของย่าออกมาปี 2517 สารระบบของย่ายังอยู่หรือปล่าวครับ เราสามารถขอจากที่ดินได้หรือไม่
2 ความเข้าใจของพี่น้องกับคนรอบข้าง ที่ดินของพ่อ เข้ารู้ว่าที่ดินเข้าอยู่ตรงไหน แต่โฉนดออกมาเหลือน้อย เรามีวิธีแก้ไงครับ โดยที่ ที่เข้ามาทับที่ของพ่อในโฉนดเป็นของป้า

ขอบคุณครับ

ให้พาเจ้าหน้าที่รังวัด มารังวัดพร้อมตรวจดูหลักเขตว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วให้ที่ดินข้างเคียงลงชื่อ จะได้ทราบจำนวนที่ดินที่แน่ชัด

คืองี่ครับท่าน อยากจะดูสารระบบของย่า ที่ตายไปแล้ว เราขอดูได้หรือปล่าวว่า เขาแยกแบ่งไปให้เราเท่าไหร แต่ โฉนด มันออกมาน้อยกว่าความเป็นจริงอะครับแต่โฉนดของพ่อเขาออกมาแล้วตั้งแต่ปี่2517ครับท่าน เพราะว่ามันมีปัญหาตรงที่ว่าป้าก้อไม่รู้ว่าที่แก่มีเท่าไรพ่อจำได้ว่าเท่านี้ แต่โฉนดออกไม่ตรงตามที่แกเข้าใจอะครับ เพราะไปขอที่ที่ดินเขาว่าไม่มีสารระบบของย่ามันมะมี พ่อก้อถามเขาว่าถ้าไม่มีแล้วออกโฉนดได้ไง เขาบอกไม่รู้

ที่ดินของพ่อแบ่งมาจากที่ดินของย่าใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ดูที่โฉนดของพ่อว่าแบ่งแยกมาจากโฉนดเลขที่เท่าใด ก็พอจะรู้ แล้วไปติดต่อที่สำนักงานที่ดิน ถ้าเขาไม่เก็บไว้ โอกาสดูก็ยาก หรือถ้าไม่มีบอกก็อาจเป็นไปได้ว่าที่ดินของย่าเป็นที่ดินมือเปล่าเช่น นส.3 หรือ สค.1 ซึ่งโอกาสดูก็ไม่มีอีกเช่นกัน

สวัสดีครับ พี่ทนายกฤษณะ ผมขอเล่าภูมิหลังปัญหาและจะมีคำถามตอนท้ายครับ
ปี2531บิดาของผมซึ่งเป็นคนจีนต่างด้าว ได้ซื้อที่ดินสองแปลงประมาณไร่ครึ่งโดยใส่ชื่อผมและพี่ชายเป็นเจ้าของร่วมกัน
ปี2534พี่ชายทำการปลูกบ้านบนที่ดินดังกล่าว ผมทำงานอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยได้กลับบ้าน ปี2536พี่สาวซึ่งทำธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน
ขอบิดาเอาที่ดินสองแปลงนี้ค้ำประกันเงินกู้ประมาณสองล้านบาท ผมและพี่ชายยินดีช่วยเหลือ ปี2546พี่สาวอีกคนได้เข้ามาอยู่ในบ้าน
หลังที่ปลูกบนที่ดินผืนนี้เพื่อดูแลบิดาซึ่งอายุแปดสิบกว่าแล้ว ปี2550บิดาเสียชิวิตด้วยโรคชรา ปี2554ต้นปีผมแจ้งความจำนงกับพี่สาว
คนที่ทำธุรกิจว่าจะขายที่แปลงนี้ส่วนของผมให้ในราคา ห้าล้านบาท แต่พี่สาวบอกไม่มีเงินซี้อ ผมคุยกับพี่ชายที่มีชื่อร่วมกันว่าจะปักป้ายขาย
สิบสี่ล้านบาท ถ้าขายได้ผมขอหกล้าน พี่ชายเอาไปแปดล้านเพราะเป็นคนปลูกบ้าน แรกๆพี่ชายไม่อยากขายเพราะเป็นที่มรดกและยังค้ำประกันเงินกู้ให้พี่สาวอยู่ ผมเกลี้ยกล่อมจนยอมขาย ปัจจุบันมีคนมาขอซื้อที่แปลงนี้แล้วในราคาสิบสี่ล้านบาท คำถามมีอยู่ว่า
1.สิบแปดปีที่ค้ำประกันเงินกู้ให้พี่สาว มีโอกาสถูกพี่สาวโกงได้หรือไม่และจะยกเลิกการค้ำประกันเพื่อเอาโฉนดออกจากแบงค์ได้อย่างไรครับ
2.พี่สาวคนที่เคยดูแลบิดาปัจจุบันก็ยังอยู่บ้านหลังนี้ เค้าสามารถครอบครองแบบปรปักษ์ได้หรือไม่ อย่างไรครับ
3.พี่ชายที่มีชื่อร่วมกันในโฉนดจะร่วมมือกับพี่สาวที่ทำธุรกิจ โกงที่แปลงนี้ได้หรือไม่ อย่างไรครับ
รบกวนถาม 3 ข้อครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณสมชาย

ขอตอบตามคำถามทั้ง 3 ข้อ ดังนี้
1 . ที่ดินที่ไปค้ำประกันหนี้เงินกู้ของพี่สาวต่อสถาบันการเงิน เขาเรียกว่า " จำนอง " ครับ คุณควรเช็คว่าหนี้ยังค้างอยู่อีกเท่าใด ลูกหนี้คือพี่สาวคุณได้ชำระหนี้ให้แบงค์ตลอดหรือไม่ เพราะเป็นเวลาถึง 18 ปีมาแล้ว เรื่องที่จะถูกพี่สาวโกงคงไม่มีหรอก จะมีก็แต่พี่สาวไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ให้แบงค์ตามกำหนด จนถูกแบงค์ฟ้องยึดที่ดินออกขายทอดตลาด ซึ่งอาจเป็นไปได้ ส่วนการขอยกเลิกการจำนอง แบงค์จะยอมก็ต่อเมื่อหาที่ดินแปลงอื่นมาจำนองแทน
2 . ไม่สามารถอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะเป็นการเข้ามาอยู่ในลักษณะการอาศัย
3 . จะโกงได้ก็อาจเป็นการปลอมลายมือชื่อของคุณ แต่ต้องไถ่จำนองออกจากแบงค์ก่อนนะครับ

เมื้อกี้แม่ไปที่ดินมา เค้าบอกแม่กับพ่อว่า % แพ้สูงมาก ดิฉันจะบ้าตายเพาะ เค้าบอกว่า ทางพ่อและญาติไม่เคยคัดค้าน ทางเค้ามาตั้งแต่แรก ไม่มีสิทธิไปเอาอะไรกะเค้าได้ ดิฉันเลยอยากถามว่า คำว่า [u]รับให้จากมารดา กับคำว่า รับให้จากมารดาด้วยควมเสน่หา 2 แบบนี้ มันเหมือนกันไหมคะ เพราะดูในเอกสารการขอออกโฉนด มันเขียนว่า รับให้จากมารดา ประมาณ 10 ปี และอีกใบเขียนว่า รับให้จากบิดาประมาณ 10 ปี 2 ใบนี้เขียนไม่ตรงกัน ที่ดินนั้นเป็นของญ่า ญ่าเสีย ไปหลายปี ก่อนที่จะออกโฉนด แต่ไปค้นหาเอกสาร สค1 ที่ที่ดินไม่เจอค่ะ เพราะมีคนเค้าบอกว่า หากรับจากมารดาด้วยความเสน่หาจะไม่มีสิทธิขอแบ่ง และตอนไปขอออกโฉนดนั้น พ่อกับ พี่สาวที่ร่วมฟ้องกับพ่อได้ไปทำงานที่จังหวัดอื่นอยู่ค่ะ
เลยไม่รู้เรื่องการไปขอโฉนดเป็นชื่อทางฝ่ายเค้า ขอคำแนะนำหน่อยค่ะเหนื่อยใจ

ขออภัยจริงๆค่ะ กระทู้ผิดค่ะ คนละหัวข้อ