คือ พ่อของดิฉันตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ยามวิกาลโดยมียานพาหนะ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการฝากขังค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า พ่อของดิฉันมีอาชีพขับรถแท๊กซี่ ซึ่งขับมาได้ประมาณ สอง เืดือน เหตุเกิดวันที่ 30 กันยายน 2554 เวลาประมาณ ตีสาม พ่อของดิฉันขับรถแท๊กซี่เข้าบ้านในซอยเพชรเกษม79 เพื่ออาบน้ำ และนำรถแท๊กซี่ไปคืนอู่ที่สะพานใหม่ ได้พบกับ นาย ก และนาย ข นั่งกินเหล้าอยู่บริเวณบ้าน(พ่อเคยเห็นนาย ก ไม่กี่ครั้งไม่ได้สนิทมากมาย แต่ นาย ข พ่อไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว) นาย ก ได้วานให้พ่อไปส่งที่บ้าน ในซอยเพชรเกษม 77 และนาย ข ได้ขอติดรถไปด้วย พอถึงหน้าหมู่บ้านพฤกษาทาวน์ 81 นาย ก และ นาย ข ขอลงก่อนถึงบ้าน พ่อก็จอดรถให้ทั้งสองลงระหว่างทาง แล้วพ่อก็กลับมานอนที่บ้าน แต่ระหว่างนั้น นาย ก และ นาย ข ได้กระทำการลักขโมยสายไฟ บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษาทาวน์ แต่ถูก รป���.จับกุมได้ แต่นาย ข หลบหนีไปได้ หลังจากนั้น เวลาตีสี่ ตำรวจได้มาจับพ่อที่บ้านแจ้งว่าพ่อร่วมกันลักทรัพย์ในยามวิกาล แล้วเมื่อตำรวจค้นรถแท๊กซี่ ตำรวจพบคีมตัดสายไฟอยู่บริเวณเบาะหลัง จึงได้จับกุมตัวพ่อมาที่โรงพัก หลังจากนั้น ทำเอกสารการจับกุม โดยพ่อบอกดิฉันว่าตำรวจไม่ได้อ่านรายละเอียดในใบจับกุมให้ฟัง และประกอบกับพ่อของดิฉันสายตาไม่ดี จึงเซ้นต์เอกสารดังกล่าวไปตามที่ตำรวจบอก ซึ่งในเอกสาร แขียนไว้ว่า พ่อเป็นคนตัดสายไฟ และหลบหนีขึ้นแท๊กซี่แล้วขับหนีตำรวจ ซึ่ง���ายหลังดิฉันได้สอบถาม รป���.แล้ว รป���.แจ้งว่า ณ ตอนที่จับนาย ก ไม่มีแท๊กซี่ และไม่เห็นแท๊กซี่คันที่พ่อขับเลยด้วยซ้ำ ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ แล้วถ้านาย ก ยืนยันว่าพ่อ เป็้นนาย ข พ่อดิฉันจะติดคุกไหมคะ รบกวนตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

พ่อลงชื่อในเอกสารที่ตำรวจนำมาให้ ผมเข้าใจว่าเป็นการรับสารภาพ ถ้าไม่ได้ทำจริงและอยากสู้คดี ต้องไปให้การกับตำรวจใหม่โดยขอกลับคำให้การเป็นปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจ ตามข้อเท็จจริงยังมีโอกาสรอด

เอกสารที่พ่อเซ็นต์รับสารภาพใบแรกเป็นในบันทึกการจับกุมค่ะ แล้วหลังจากนั้น ตำรวจได้สอบปากคำ พ่อได้ให้การปฏิเสธ แล้วค่ะ แล้วหลังจากนี้ ต้องทำอย่างไรต่อคะ แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าศาลจะนัดพิจารณาคดีวันไหน แล้วจะทราบได้อย่างไรคะว่า นาย ก ให้การกับตำรวจว่าอย่างไรบ้าง ขอบคุรนะคะ

เมื่อตำรวจสอบสวนเสร็จจะส่งให้อัยการยื่นฟ้อง จะมีหมายนัดมาเพื่อส่งฟ้องที่ศาล อยากรู้คำให้การของนาย ก. ก็ต้องถามตัวเขา เพราะไปขอดูสำนวนตำรวจคงไม่ให้ดูหรอก