มีบุคคลเข้ามาตัดต้นไม้ในที่ดินของผม แต่เขาอ้างว่าซื้อต้นไม้จากแม่ผมซึ่งแกไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน และอายุแกก็ 94 ปีแล้ว ผมเป็นเจ้าของทีดินแปลงนั้น มีหลักและพยานครบถ้วน แต่เขาไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย ถ้าขึ้นศาลผมจะต้องทำยังไงบ้างครับ และสามาถเรียกร้องค่าเสียหายได้มากน้อยแค่ไหน และถ้าเรื่องถึงศาลผมจะต้องจ้างทนามไหม ถ้าไม่มีเงินจ้างจะต้องทำยังไงบ้างครับ แบบนี้แจ้งข้อหาอะไรได้บ้างครับ

อ่านข้อเท็จจริงแล้ว จะเป็นเรื่องลักทรัพย์หรือไม่ ผมว่าคุณควรถามคุณแม่ก่อนครับว่าบอกขายต้นไม้ให้เขาไปจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้บอกขายก็เป็นการลักทรัพย์ แต่ถ้าแม่บอกขายจริง และต้นไม้เป็นของคุณ เขาก็ยังไม่ผิดฐานลักทรัพย์เนื่องจากสำคัญผิดในข้อเท็จจริง จึงขาดเจตนา แต่ก็ต้องรับผิดทางแพ่ง ต้นไม้เสียหายไปแล้วก็ต้องได้รับชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนการฟ้องไม่มีทนายก็พอได้ แต่ถ้าเขาสู้คดีขึ้นมายังไงก็ต้องหาทนายครับ

แม่ผมแกพูดไม่รู้เรื่องจำใครก็ไม่ได้เพราะว่าแกอายุมากแล้วและคนทั้งหมู่บ้านเค้าก็รู้ว่าแกพูดไม่รู้เรื่องแต่คนที่เค้ามาซื้อต้นไม้เขาก็รู้อยู่แล้วว่าแกพูดไม่รู้เรื่องจำใครก็ไม่ได้และเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นเจ้าของทีดินแปลงนี้แต่ผมไม่อยู่บ้านจึงฉวยโอกาศตอนที่ไม่มีใครอยู่บ้านมาตัดต้นไม้ไปหมดแบบนี้จะเรียกว่าเจตนาได้มั้ยครับ และผมอยากทราบว่าถ้าจ้างทนายจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ค่าชดเชยที่คู่กรณีจ่ายในคดีแบบนี้คิดยังไง และค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายคิดเป็นเงินเท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ

ก็แสดงว่าแม่ไม่ได้บอกขาย ข้อหาลักทรัพย์นั้นเป็นความผิดอาญามีโทษถึงจำคุก ในส่วนอาญานี้แจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีจะดีกว่าครับและเวลาที่อัยการฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ค่อยแต่งทนายเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกค่าเสียหาย จะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ส่วนค่าจ้างทนายก็คงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับคุณจ้างทนายที่มีชื่อเสียงระดับไหน ทนายเรียกไม่เท่ากัน บางคนกล้าเรียกแพง บางคนเรียกถูก แต่เรียกแพงยังไงเฉพาะโจทก์ร่วมอย่างเดียวก็คงไม่น่าเกิน 30,000 บาท