กนกวรรณ

กนกวรรณ

ผู้เยี่ยมชม

muk_tonza@hotmail.com

29 เม.ย 2558 15:32 #18

ขอถามหน่อยค่ะ แฟนนู๋เขาไปลักทัรพย์ โทรศัพท์มือถือ3เครื่องที่ร้านและงัดร้าน ที่ร้านขายโทรศัพท์ในเวลากลางคืนแต่ผู้เสียหายได้ของกลางคืนไปหมดแล้ว และแฟนนู๋ยอมรับสารภาพแล้ว แต่ศาลให้นำตัวไปฝากขังที่เรือนจำคลองด่านและรอขึ้นศาลอีกที่วันที่
9พ.ค.58รอศาลตัดสินและทางครอบครัวของ เขาจะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ทางร้านทั้งหมด และทางครอบครัวเขาจะประกันตัว อยากถามว่าพอมีทางแก้ไขยังไงถึงจะไม่ติดไหมค่ะ และถ้าติดกี่ปี

171.96.19.205

กนกวรรณ

กนกวรรณ

ผู้เยี่ยมชม

muk_tonza@hotmail.com

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

29 เม.ย 2558 20:46 #19

การลักทรัพย์เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ถึงแม้ผู้เสียหายจะได้รับทรัพย์คืนไปแล้ว ความเห็นผมถ้าทำผิดจริงควรรับสารภาพไปดีกว่า จะได้ติดคุกน้อยลง

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

อดิศร

อดิศร

ผู้เยี่ยมชม

mha3079@hotmail.com

16 ก.ค. 2558 15:38 #20

คือเรื่องมียุว่าไปเดินโลตัสแระเกิดอารมชั่ววูปแกะบาร์โคสออก แระสำนึกผิดจะเอาไปจ่ายตังแต่บาร์โคสไม่มี จึงตัดสินใจเขนรถออกมา โดนข้อหาลักทรัพย์เวลากลางคืน แต่เขาไม่เคยมีคดีมาก่อน เขาบริจาคเลือด39ครั้งไม่ทราบว่า การบริจาคเลือดจะช่วยลดโทษได้ไหมครับ

119.76.66.70

อดิศร

อดิศร

ผู้เยี่ยมชม

mha3079@hotmail.com

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

18 ก.ค. 2558 23:32 #21

การบริจาคเลือดไม่ได้ช่วยลดโทษแต่อย่างใดครับ

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

ธนกร

ธนกร

ผู้เยี่ยมชม

airzaklub001@hotmail.com

17 พ.ย. 2558 00:40 #22

สวัสดีครับผม พอดีผมจะขึ้นศาลเร็ว ๆนี้แล้ว ฐานความผิด - ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้โดยใช้ยานพาหนะ

ข้อที่ 1 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2557 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยกับพวก
ซืึ้งสวมหมวกนิรภัยเพื่อปิดบังใบหน้าไม่ให้ผู้อื่นเห็นหรือจำหน้าได้ ได้บังอาจร่วมกันเข้าไปในบริเวณบ้าน
อันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของ นาย สมบูรณ์ นิลพร้อม ผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอานุญาตและไม่มีเหตุสมควร
แล้วได้บังอาจร่วมกันลักทรัพเอารถจักย์ยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 2 กษ 4833 กรุงเทพมหานคร
จำนวน 1 คัน ราคา 68000 บาท ของผู้เสียหายซึ้งเก็บรักษาไว้ในเคหสถานดังกล่าวไปโดยทุจริต
โดยในการลักทรัพย์ดังกล่าวจำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน เป็น ยานพาหนะเพื่อสะดวก
แก่การกระทำผิด พาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม
ข้อที่ 2 ตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 ภายหลังเกิดเหตุลักทรัพย์ จำเลยกับพวกอีก 1 คน
ซึ่งเป็นเยาวชนแยกดำเนินคดีต่างหากแล้ว ได้ร่วมกันครอบครองรถจักยานยนต์ คันหมายเลข ทะเบียน 2 กษ 4833
กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายร่วมกัน ลักไปดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 และต่อมา
วันที่ 15 สิงหาคม 2557 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานจับพวกของ จำเลยดังกล่าวและยึดได้รถจักยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 2 กษ 4833 กทม จำนวน 1 คัน ได้ในความครอบครองของพวกของจำเลย เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ต่อมาวันที่ 5กันยายน 2557 พรักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลย ทำการสอบสวนแล้ว
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฎิเสธ
รถจักรยานยนต์ของกลาง ผู้เสียหายได้รัยคืนไปแล้ว
ระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ถูกควบคุมตัว ได้ส่งตัวจำเลยมาศาลพร้อมฟ้องนี้ด้วยแล้ว

นี้คือคดีสำนวนผมเองครับ แต่ผม แค่ไม่ส่งไม่ได้ร่วมกัน แต่เด็กที่เป็นเยาวชน ได้สัดทอดให้ผมโดนเต็ม ๆ
ถ้าผมสู้ พอมีทางใหนที่จะสู้ให้ชนะมั้งครับ หรือต้องยอมรับ จำติดกี่ปีครับถ้ายอมรับไปเลย

171.98.24.215

ธนกร

ธนกร

ผู้เยี่ยมชม

airzaklub001@hotmail.com

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

19 พ.ย. 2558 16:48 #23

สรุปง่ายๆ ก็แล้วกัน ถ้าไม่ได้ร่วมไปลักกับเขาก็ต้องสู้คดี เพราะคำซักทอดของจำเลยด้วยกันมีน้ำหนักน้อย แต่ถ้าร่ามไปลักด้วยกับเขา ก็รับสารภาพไปเถอะ รายละเอียดต้องเข้ามาคุยที่สำนักงาน

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

reung

reung

ผู้เยี่ยมชม

reung2015@gmail.com

19 ธ.ค. 2558 01:18 #25

มีเรื่องเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ยามวิกาลต้องการเรียนถามและขอคำชี้แนะค่ะ
คือ แฟนหนูเป็นชาวต่างชาติ และได้ไปเดินเที่ยวที่บิ๊กชีกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นชวนเขาไปขายน้ำหอมด้วย เขาก็เลยไปด้วย
ในขณะที่เดินชอปปิ้งอยู่ชั้นสอง ฝ่ายชายแยกตัวไปดูของเล่นให้ลูกชาย ส่วนฝ่ายหญิงดูเครื่องนอนและชุดนอน หลังจากนั้นฝ่ายหญิงหยิบผ้าปูที่นอนและชุดนอน2ชุด ใส่ไว้ในถุงของฝ่ายชายที่ถือไปด้วยและอยู่ในรถเข็นของทางห้าง หลังจากนั้นฝ่ายชายกลับหาฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงเหมือนไม่พอใจที่ฝ่ายชายทิ้งให้อยู่คนเดียว หลังจากนั้นฝ่ายหญิงได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่เคเอฟชี และบอกให้ฝ่ายชายรอที่ชั้นสอง ฝ่ายชายรอประมาฌ 30-40 นาที แต่ฝ่ายหญืงไม่มาก็เลยโทรหาแต่ฝ่ายหญิงไม่รับ ก็เลยลงไปหาที่เคเอฟชี **ช่วงที่จะถือถุงออกจากรถเข็นที่ชั้นสองเพื่อลงไปเคเอฟชี ฝ่ายชายได้สังเกตเห็นว่ามีของอยู่ในถุงของตนแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร หลังจากนั้นได้ถือถุงลงไปชั้นล่างเพื่อมองหา เคเอฟชี และไปหยุดยืนที่ปะตู เคเอฟชี โดยเดินเลยแคชเชียร์ไปเล็กน้อยแต่ยังไม่ออกจากห้าง เพื่อมองดูว่ามีผู้หญิงอยู่ในนั้นไหม หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาทีเจ้าหน้าที่ของห้างได้มาขอตรวจของในถุง และเขาบอกเจ้าหน้าที่ว่า เขารอเพื่อนของเขาและของในถุงไม่ใช่ของเขา แต่ไม่เข้าใจกันเพราะเขาพูดอังกฤษและเจ้าหน้าที่พูดไทย เขากลัวมีปัญหาเลยทิ้งของลงตรงนั้นและเดินออกนอกห้างเพื่อมองหาเพื่อนของเขา และเจ้าหน้าที่ห้างได้เข้าจับตัวเขาตรงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามบิ๊กชี
คำถามคะ
1.ถ้าสู้คดีจะมีโอกาสชนะไหมคะ และถ้ากล้องวงจรปิดตรงเครื่องนอนไม่มีจะมีโอกาสชนะไหมคะ
***ตอนเดินเข้าห้างเขาเดินเข้าคนเดียวที่ชั้นสองเพราะต้องเอารถมอไซค์ไปจอด และฝ่ายหญิงขอลงก่อนบอกว่าจะไปหาเพื่อนก่อน และให้ลงมาเจอที่ชั้นหนึ่ง
2.ถ้าแพ้ต้องติดคุกไหมคะ และถ้าติดจะประมาณกี่ปี ***ราคาทรัพย์ 2300<br>
3.ควรจะสู้หรือยอมรับดีคะ
ตอนนี้ประกันตัวออกมา และคุยกับตำรวจให้คุยกับบิ๊กชีให้เพื่อยอมความในชั้นศาล แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องการเงิน และถ้าจ่ายเงินไปแล้วบิ๊กชีไม่ยอมๆความจะทำอย่างไร เพราะเขาบอกต้องจ่ายเงินก่อน และเขาก็ไม่ได้มีเงินด้วยคะ เขาอยู่ที่นี้โดยวีซ่าหมดอายุ แต่มีใบลี้ภัยของ U.N คะ

ปล.ยาวไปนิดหนึ่งเพราะอยากให้คนที่เข้ามาตอบเข้าใจ ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคนที่จะเข้ามาตอบ

1.46.198.145

reung

reung

ผู้เยี่ยมชม

reung2015@gmail.com

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

20 ธ.ค. 2558 21:55 #26

ข้อเท็จจริงดูแล้วจะสู้ลำบาก ผมแนะนำให้จ่ายเงินเขาไปและให้เขาแถลงไม่ติดใจเอาความเวลาขึ้นศาล

ทนายกฤษณะ

ทนายกฤษณะ

ผู้เยี่ยมชม

krish1936@gmail.com

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้