แม่ยายผมมีบัญชีอยู่ที่ ธนาคารนครหลวงไทย สาขาวัดพระยาไกร เป็นบัญชีฝากประจำ
วันที่ 22 เมษายน 2554 แม่ยายผมพบว่ามีเงินในบัญชีประมาณ 520,000 บาท
จึงต้องการถอนเงินออกมาใช้ ปรากฎว่า ผู้จัดการสาขาฯ แจ้งแม่ยายผมว่า
ถอนเงินได้เพียง 300,000 บาทเท่านั้น อีก 220,000 บาท ถอนไม่ได้ เพราะถูกอายัด
แม่ยายผมเลยถอนเงินออกมา 300,000 บาท เหลือในบัญชี 220,000 บาท เพราะถอนไม่้ได้

แม่ยายผมถามผู้จัดการสาขาฯถึงสาเหตุที่เงิน 220,000 บาท ถูกอายัด ผู้จัดการสาขาฯบอกว่า ไม่รู้่
รู้แต่ว่า บัญชีถูกอายัด 220,000 บาท [size=150%]แต่ไม่รู้ว่าใครอายัด ไม่รู้ว่าถูกอายัดด้วยเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าอายัดเมื่อใด[/size]
ผู้จัดการสาขาฯขอเวลาตรวจสอบ 2-3 วัน แม่ยายผมก็รอฟังผล ถ้าหากว่าบัญชีถูกอายัดจริง ก็จะได้ไปเคลียร์เจ้าหนี้
ถ้าบัญชีไม่ได้ถูกอายัด จะได้ถอนเงินออกมาใช้ประกอบธุรกิจและใช้ในชีวิตประจำวัน

เวลาผ่านไปประมาณ 10 วัน แม่ยายผมไปตามเรื่อง ผู้จัดการสาขาฯบอกว่า ยังตรวจสอบไม่ได้ว่า
ใครอายัด อายัดเมื่อไหร่ อายัดเรื่องอะไร ให้รอไปก่อน รอไปเรื่อยๆ ธนาคารฯตรวจสอบเจอเมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบ
แม่ยายผมก็รอมาเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน ผู้จัดการสาขาฯก็ไม่ติดต่อแจ้งเหตุผลในการอายัดเงิน

วันที่ 20 มิถุนายน 2554 แม่ยายผมร้องเรียนไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ธปท.ก็บอกว่า รับเรื่องไว้แล้ว ได้ส่งเรื่องให้ธนาคารนครหลวงไทย สำนักงานใหญ่ ตรวจสอบแล้ว
ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้แม่ยายผมทราบ แม่ยายผมรอจนเวลาผ่านมา 15 วัน จึงโทรไปตามเรื่องที่ ธปท.
เจ้าหน้าที่ของ ธปท. บอกว่า ให้รอไปเรื่อยๆ รอจนกว่า ธนาคารนครหลวงไทย สำนักงานใหญ่ จะแจ้งผลการตรวจสอบ


จนถึงวันนี้ เวลาผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว(ประมาณ 75 วัน) แม่ยายผมยังไม่ได้รับทราบเหตุผลจากธนาคารฯว่า
ใครเป็นผู้อายัดบัญชีั อายัดเมื่อใด อายัดด้วยเรื่องอะไร และไม่ทราบว่าจะทราบเรื่องเมื่อใดเพราะธนาคารฯตรวจสอบนานมากแล้ว
ก็ยังไม่แจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบ ทำให้แม่ยายผมได้รับความเสียหาย ได้รัีบผลกระทบทางธุรกิจ

ตอนนี้ ภรรยาผมต้องนำรถยนต์ไปจำนำกับนายทุน เพื่อเอาเงินมาชำระเจ้าหนี้แทนแม่ยายผม
เพราะแม่ยายผมไม่สามารถถอนเงิน 220,000 บาทในบัญชีดังกล่าว ออกไปชำระหนี้ได้
ทำให้ไม่มีรถยนต์ใช้รับส่งลูกและไปทำงาน ได้รับความเดือดร้อนมาก

ผมจึงขอเรียนถามว่า
1.พฤติกรรมของธนาคารนครหลวงไทยฯ เป็นความผิดกฎหมายอาญาหรือไม่ เพราะ มีหลายคนแนะนำให้ไป
แจ้งความ ยักยอกทรัพย์ บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องแพ่งให้ไปจ้างทนายฟ้องเรียกเงินและค่าเสียหาย
บางคนก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้ ต้องรอไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน
2.ขอคำแนะนำว่า แม่ยายผมควรจะทำอย่างไรต่อไปดีครับ นอกจากรอ และ รอ

ขอบคุณครับ

ปล.แม่ยายผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องการอายัดนะครับ ถ้ามีการอายัดจริงและธนาคารฯสามารถแสดงหลักฐานได้
แม่ยายผมก็พร้อมจะน้อมรับ และจะได้ไปเคลียร์ปัญหากับเจ้าหนี้ให้เรียบร้อย ที่ติดใจคือ การที่ธนาคารฯ
ไม่บอกข้อมูลให้ทราบว่า ถูกอายัดด้วยเรื่องอะไร ทำให้เข้าใจว่าธนาคารฯมีเจตนาทุจริตครับ

1. ธนาคารฯ ไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญา เพราะคงไม่มีเจตนาทุจริต
2. ผมว่าฟ้องศาลเป็นคดีผู้บริโภค น่าจะดีที่สุด ธนาคารฯ จะได้ชี้แจงได้ว่าสาเหตุที่ให้ถอนเงินไม่ได้เพราะอะไร

ขอบคุณครับ
รบกวนถามอีกข้อนึงครับ ถ้าไปฟ้องศาลผู้บริโภค จะฟ้องใครเป็นจำเลยครับ เช่น
1.ฟ้อง ผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย สาขาวัดพระยาไกร
2.ฟ้อง สมุห์บัญชีธนาคารนครหลวงไทย สาขาวัดพระยาไกร
3.ฟ้อง กรรมการผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย สำนักงานใหญ่
ฯลฯ

ไม่ใช่ฟ้องศาลผู้บริโภค แต่ไปฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคที่ศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งมูลคดีเกิดขึ้น โดยฟ้อง ธนาคารนครหลวงไทยเป็นจำเลยที่ 1 ผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาวัดพระยาไกร เป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งคดีผู้บริโภคไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล

ขอบคุณครับ

ผมจะรอดูผลการดำเนินการของ ธปท. อีก 2-3 วัน
จากนั้น จะพาแม่ยายไปยื่นฟ้องศาลแขวงพระนครใต้ เป็นคดีผู้บริโภค
โดยมี ธนาคารนครหลวงไทย เป็นจำเลยที่ 1
และมี ผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทย สาขาวัีดพระยาไกร เป็นจำเลยที่ 2

ขอบคุณอีกครั้งครับ