เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 6 คนรุมทำร้ายร่างกายชาวบ้าน ที่กำลังไปเฝ้าไร่ข้าวโพด จนได้รับบาดเจ็บกระดูกซี่โครงร้าว และถูกจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง(ปืนเก็บ) และหนักสุดคือข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ชาวบ้านไปเฝ้าไร่แค่คนเดียว ขับรถจักกยานยนต์ไปตามทางในแนวเขตป่าสงวนซึ่งติดต่อกับไร่ของชาวบ้านและคนในหมู่บ้านก็ใช้เส้นทางนี้สัญจรตลอดเสมอมา และชาวบ้านที่ทำไร่ติดต่อกับป่าก็จะต้องออกไปเฝ้าไร่เพื่อไม่ให้สัตว์ป่ามาทำลายผลผลิต ซึ่งก็จะมีอาวุธใช้ป้องกันตัวคือ ปืนเก็บ(ปืนไทยประดิษฐ์)และประทัดเพื่อจุดไล่ช้าง ชาวบ้านที่โดนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำร้ายนั้น ก็ไปเฝ้าไร่เช่นเคยเวลาประมาณ 1 ทุ่ม พอถึงที่หมายก็ทำการจุดประทัดเพื่อใช้เสียงไล่สัตว์ที่กำลังจะเข้ามา พอดีระหว่างที่กำลังจุด เจ้าหน้าป่าไม้ที่มาจากเขตพื้นที่อื่นผ่านมาพอดี เสียงประทัดที่จุดดังขึ้น 1 นัด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วยความเข้าใจว่าชาวบ้านยิงปืนใส่พวกตนจึงลงจากรถรุมทำร้ายชาวบ้านแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเป็นเหตุให้ชาวบ้านสลบ เมื่อชาวบ้านฟื้นขึ้นมาและนำตัวไปที่ฐานป่าไม้และรุมทำร้ามร่างกายอีกจากนั้นได้นำชาวบ้านไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลา 02.00 โดยประมาณ และแจ้งข้อกล่าวหาตามที่กล่าวข้างต้น เหตุการณ์นี้ ท่านที่ทราบเรื่องกฏหมายช่วยแนะนำผมที่เพราะผมจะไปช่วยเหลือชาวบ้านคนนั้นเพราะผมทราบว่าโทษข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานหนักมากทีเดียว อีกอย่างชาวบ้านคนที่กล่าวนี้ ไม่เคยบุกรุก หรือต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะสลบตั้งแต่โดนท้ายปืน HK แล้ว อาจมีความผิดก็เพียงปืนเก๊บที่เอาไปด้วยเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมส่งให้อัยการ ท่านใดพอช่วยได้โปรดติดต่อมาโดยด่วน สงสารชาวบ้าน

เวลาตำรวจสอบปากคำก็ต้องปฏิเสธไป แต่เป็นการปฏิเสธแบบมีเหตุผลกล่าวคือต้องเล่าเรื่องความจริงให้ตำรวจบันทึก ตำรวจจะบันทึกหรือไม่ก็ตรวจอ่านดูเวลาเขาให้เซ็นชื่อ ถ้าบันทึกไม่ถูกต้องก็ต้องโต้แย้งอย่าไปกลัว แต่ผมว่าเขาคงสอบปากคำไปแล้ว ตรงข้อเท็จจริงที่ให้การไปจะนำไปพิสูจน์การสืบพยานในชั้นศาล ส่วนจะพูดอย่างไรก็ต้องให้ทนายความที่รับผิดชอบคดี เป็นคนวางแผน