ดิฉันมีเรื่องจะรบกวนสอบถามค่ะ จะสรุปเรื่องย่อๆให้พอเข้าใจนะคะ
คือเมื่อต้นปีดิฉันได้รู้จักคนๆนึงทางใบปลิว เกี่ยวกับการสมัครขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยคิดอัตราค่าจ้างทำ จากยอดเงินที่บัตรอนุมัติ โดนหัก 25% ซึ่งมันก็ถือว่าเยอะมาก แต่ดิฉันก็ลองทำ เพราะว่ามันไม่เสียหายอะไร ถ้าสมัครผ่านก็โอเค แต่ถ้าสมัครไม่ผ่านก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยขั้นตอนดำเนินการคือ เราต้องเปิดสมุดบัญชี 2 ธนาคาร คือ ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงศรี ให้กับคนจ้างทำเพื่อเค้าจะไปเดินบัญชีให้เราในวงเงินที่สูง 2.ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน 3.ถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน หลังจากนั้นดิฉันก็รอเกือบ 3 เดือน เค้าก็ยื่นขอสินเชื่อกับทางสถาบันการเงินให้ และที่น่าแปลกใจคือ ไม่น่าเชื่อว่าสินเชื่ออนุมัติในวงเงินสูงมาก ดิฉันก็ไม่คิดอะไร การขอสินเชื่อรอบแรกได้เงินรวมๆอยู่ที่ 530,000 บาท หลังจากนั้นอีกประมาณ 2 เดือน ดิฉันก็ติดต่อเค้าเพื่อจะให้เค้าทำสินเชื่อให้ดิฉันอีก เนื่องจากว่า สินเชื่อแรกที่ได้นั้นมันเป็นบัตรเครดิต ดิฉันอยากได้สินเชื่อส่วนบุคคล เพราะมันชำระเป็นรายเดือนทั้งต้นทั้งดอกและใช้เวลาหลายปี ไม่เหมือนดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่แพงมาก การกู้รอบ 2 ดิฉันได้เงินจำนวนทั้งสิ้น 340,000 บาท

คำถาม
- บัตรเครดิตช่วงแรกดิฉันก็ชำระขั้นต่ำตามปกติ แต่ช่วงหลังดิฉันได้หยุดชำระไปแล้วติดต่อกันประมาณ 3เดือน บางบัตรก็ 4 เดือน หรือบางบัตรกดมาเต็มวงเงิน ยังไม่เคยชำระงวดแรกเลยติดต่อกัน 2เดือน แล้ว และบางบัตรก็ได้โทรมาขอให้ดิฉันปรับโครงสร้างหนี้แล้วค่ะ อยากทราบว่าหลังจากนี้จะมีผลยังไงบ้างค่ะกับตัวดิฉัน ดิฉันต้องถูกฟ้องล้มละลาย หรือ ต้องขี้นศาลหรือเปล่าค่ะ ดิฉันมีเวลาเตรียมตัวหาเงินไว้ใช้หนี้บนศาลเท่าไรค่ะถ้านับจากวันที่เราไม่ชำระหนี้บัตร

ปัญหาที่ 2 คือเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ดิฉันได้ไปจองรถยนต์ เพื่ออยากได้สิทธิ์รถคันแรก โดยเงินดาวน์ทางคุณแม่เป็นคนออกให้ และให้ดิฉันผ่อนกับไฟแนนท์ ดิฉันแทบช็อคเมื่อไฟแนนท์แจ้งว่า ชื่อของดิฉันขึ้นกับบูโรว่า "ติดคอร์ท" (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่าเพราะฟังเค้าพูดไม่ถนัด) แต่ความหมายของมันก็คือ ดิฉันโดนข้อหาว่า ปลอมแปลงสเตรทเม้นท์ในการขอสมัครสินเชื่อที่ผ่านๆมา
ดิฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า บุคคลที่ยื่นเอกสารสมัครขอสินเชื่อกับทางธนาคารเค้าจะปลอมแปลงสเตรทเม้นท์ เพราะเบื้องต้นที่รู้จักกัน เค้าแจ้งมาว่าเอกสารทุกอย่างเป็นของจริงหมด เค้าอ้่างว่ามีคนรู้จักทำงานอยู่ธนาคารนึงซึ่งเค้าเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ ซึ่งดิฉันก็เชื่อ เพราะเวลาที่เค้านำเงินมาเดินบัญชีให้ดิฉันกับธ.กรุงศรี มันจะมี SMS เงินเข้าออก บอกตลอด แต่กับทางธ.กรุงเทพไม่มีบริการ SMS แจ้งเตือน แต่ดิฉันก็ไม่ได้สงสัยหรือฉุกใจแต่อย่างใด เพราะถ้าเอกสารทุกอย่างไม่ใช่ของจริง แล้่วทำไมธนาคารต่างๆ ถึงกล้าอนุมัติมาได้เป็นแสนๆค่ะ
คำถาม
- ดิฉันจะโดนทางธ.กรุงเทพ ฟ้องร้องเรื่องปลอมแปลงสเตรทเม้นหรือเปล่าค่ะ ที่ทำให้เค้าชื่อเสียงเสียหาย
- และทางธนาคารต่างๆ ที่อนุมัติสินเชื่อมาให้ดิฉันแล้ว เค้าจะฟ้องร้องดิฉันหรือเปล่าที่นำสเตรทเม้นท์ปลอม มาขอสินเชื่อ
- ทรัพย์สินทุกอย่างที่เป็นชื่อของดิฉันจะโดนยึดหรือเปล่าค่ะ
- อยากทราบว่า "ติดคอร์ท" มันร้ายแรงมากเลยหรอค่ะ มีคนบอกดิฉันว่า หลังจากนี้ ทั้งชีวิตของดิฉัน ไม่สามารถขอสินเชื่อใดๆได้อีกเลย
- มีพี่คนนึงแนะนำให้ดิฉันไปแถลงต่อศาลว่า ดิฉันได้ว่าจ้างให้เค้าเดินบัญชี และ ยื่นเอกสารขอสินเชื่อให้จริง แต่ดิฉันไม่เคยรับรู้ิเลยว่า เค้าได้ปลอมแปลงเอกสาร เพราะสมุดบัญชี และ บัตรเอทีเอ็มดิฉันก็ให้เค้าไปจนหมด
- สุดท้ายดิฉันควรจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อจากนี้ดีค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบค่ะ

ปัญหาแรกเรื่องบัตรเครดิต ผิดนัดชำระหนี้เขาฟ้องศาลแน่ครับ แต่ถ้าเขาเรียกไปปรับโครงสร้างหนี้ และผ่อนชำระตรงกำหนดทุกเดือนแบงค์ก็ยังไม่ฟ้องหรอก ส่วนเรื่องล้มละลายต้องค้างรวมกันกว่า 1 ล้านบาท ถ้าไม่ถึงล้านก็ไม่ต้องกลัว
ปัญหาที่สองเรื่องปลอมเอกสาร ผมตอบไม่ได้หรอกครับว่าแบงค์จะฟ้องหรือไม่ แต่แบงค์เขาไม่อยากค้าความหรอกเขาต้องการเงินคืนให้ครบตามที่คุณกู้ไปมากกว่า ส่วนทรัพย์สินอื่นจะถูกยึดหรือไม่ถ้าชำระหนี้ตรงตามกำหนดเวลาทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมายึดหรืออายัดอะไร

รบกวนสอบถาม กรณีปลอมแปลงสเตทเม้นจนบัตรอนุมัติมาแต่เรายังไม่ได้ใช้บัตรเลย ทางะนาคารโทรมายกเลิกบัตรและบอกว่าเราจะติดบล็คลิสทุกธนาคารและโดนตำรวจจับไหมค่ะ