1. บริษัท เอ. ดี.เฮ้าส์ จำกัด มีหนังสือแจ้งให้มารับโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อวันที่ 1กันยายน 2554 ทั้งๆ ที่ ไม่ได้มีหนังสือแจ้งให้มาตรวจสอบห้องชุดที่จองซื้อก่อนเลย ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ทำหนังสือโต้แย้งไปในวันที่ 23 กันยายน 2554 ต่อมา
2. ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมชมโครงการในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 ก็พบว่าโครงการยังทำการตกแต่งห้องชุดดังกล่าวซึ่งยังไม่แล้วเสร็จตามที่ท่านได้กล่าวอ้าง และ ข้าพเจ้าสามารถยืนยัน ข้อเท็จจริงด้วย คลิปวีดีโอ ที่ถ่ายในวันนั้น พร้อมทั้งเอกสารของทางบริษัทฯ ต่อมา
3.ในปี 2555 ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ติดตามความคืบหน้าของโครงการเป็นระยะๆ แต่พนักงานขอเลื่อนการส่งมอบงานให้กับข้าพเจ้าโดยตลอด อีกทั้งมีการทำงานที่ผิดพลาด ไม่เป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ งานจึงต้องถูกทำการแก้ไข มีการทุบ รื้อทิ้ง ทำใหม่ ส่งผลให้งานล่าช้ามาก และ ไม่ได้คุณภาพ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ ดังตัวอย่างเช่น วงกบประตูห้องน้ำ ที่ต้องถูกทุบ รื้อทิ้งให้เป็นบานเปิดออก เพราะ ไม่สามารถเปิดเข้าไปในห้องน้ำได้ (สร้างผิดแบบ) แต่แทนที่จะใช้ไม้เนื้อแข็งซ่อมวงกบประตูห้องน้ำ กลับใช้ไม้อัด บุเป็นวงกบประตูห้องน้ำ ซึ่งนานไปก็ต้องเกิดการผุ บวม ประตูก็ปิดไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่มาตรฐานที่ควรจะเป็นตามสัญญา ต่อมา
4. บริษัท เอ.ดี.เฮ้าท์ ได้ออกหนังสือนัดโอนกรรมสิทธิ์ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ให้ไปโอนในวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ทั้งๆที่ทางโครงการไม่เคยมีหนังสือแจ้งให้มาตรวจสอบห้องชุดดังกล่าวเลย อีกทั้งนัดโอนภายใน 10 วันซึ่งผิดจากข้อตกลงในสัญญาที่จะต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน แต่ข้าพเจ้าก็ได้ทำจดหมายโต้แย้งแล้วลงวันที่ 1 ธันวาคม 2555 และขอเงินดาวน์คืน เพราะในสัญญามีกำหนด ไว้ว่า ถ้าทางโครงการไม่สามารถส่งมอบงานภายใน ปี 2554 ต้องคึนเงินพร้อมดอกเบี้ย แต่ในวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ก็ยังพบว่า ทางโครงการเอ.ดี.เฮ้าท์ ได้มายื่นเรื่องโอนห้องชุดดังกล่าวที่กรมที่ดิน พอข้าพเจ้ามาโต้แย้งที่กรมที่ดิน ทางบริษัทฯ จึงได้ขอถอนเรื่องการโอนออกไป ซึ่งพนักงานของกรมที่ดินสามารถเป็นพยานบุคคลได้ ต่อมา
5.ทางโครงการมอบหมายให้ทนายความ ส่งจดหมายลงทะเบียนขอให้ข้าพเจ้ามาตรวจสอบห้องชุดและให้มาทำการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2556 เวลา 9.00 น ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง หากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามท่านจะยกเลิกสัญญาซื้อขายและริบเงินมัดจำ
6.ข้าพเจ้าส่งจดหมาย และทวงถามเงิน ตามจดหมายที่ข้าพเจ้าทำถึงท่านในวันที่ 1 ธันวาคม 2555 ขอให้โครงการคืนเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย เป็นจำนวนเงิน 1,124,200 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสองหมื่นสี่พันสองร้อยบาท) ให้กับข้าพเจ้าโดยทันที

ข้าพเจ้าอยากทราบว่า 1.การที่ข้าพเจ้าขอเงินคืนในปี 2555 จะเป็นการขยายระยะเวลาแบบไม่มีกำหนดให้กับโครงการ หรือไม่ 2.ทำอย่างไรจึงได้เงินคืน 3.ถ้าต้องฟ้องร้องจะมีค่าใช้จ่าย เท่าไร ผลจะออกมาสำเร็จ ได้เงินคึนหรือไม่
จึงเรียนมาเพื่อขอคำปรึกษา
หากท่านมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ข้าพเจ้าโดยตรง ตามหมายเลขโทรศัพท์ 080-6020367


ขอแสดงความนับถือ

ปณิฉัท จันทนขจรฟุ้ง

ต้องดูที่สัญญาระบุว่าโครงการจะส่งมอบห้องชุดและโอนได้ภายในวันที่เท่าใด ถ้าเกินกำหนดและเป็นความผิดของบริษัทฯ คุณก็สามารถบอกเลิกสัญญาได้ รวมทั้งเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วคืนมาได้ ถ้าเขาไม่ให้ก็ต้องฟ้องศาล เป็นคดีผู้บริโภคคุณไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ส่วนถ้าชนะคดีแล้วจะได้เงินหรือไม่ก็อยู่ที่การบังคับคดีด้วย คือถ้าเขาไม่จ่ายตามคำพิพากษาก็ต้องยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัทมาขายทอดตลาด