เรียนคุณกฤษณะ

ผมมีเรื่องร้อนใจมากครับรบกวนสอบถามเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน ผมได้ไปซื้อรถยนต์มือสองมาในราคา 570000 ครับตกลงทำสัญญาอยู่ที่ราคา 820000 ครับทำสัญญา 72 งวด ผ่อนเดือนละประมาณ 12000 บาท ผ่อนได้ประมาณ 6 เดือนและขาดการส่งประมาณ 10 งวดจนทำให้ทางไฟแนนซ์ บอกเลิกสัญญาและทำการฟ้องร้องและมีหมายศาลเรียกมาให้ไปนัดประนอมหนี้ ครับแต่ที่ศาลเรียกมามี 4 ข้อดังนี้ 1.เรียกเก็บค่าเสียหายค่าเสื่อสภาพรถนับตั้งงวดที่สาม วันละ 600 บาท เป็นจำนวนเงิน 140000 บาท
2. หากยังไม่มีการคืนรถจะเรียกเก็บเพิ่มจากวันเวลาดังกล่าว วันละ 600 บาทนอกเหนือจากจำนวนเงินดังกล่าว
3.เรียกรถคืนในสภาพที่ใช้งานได้
4. ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่าทนายความและค่าธรรมเนียมต่าง
ผมจึงขอสอบถามว่าหากเราทำการคืนรถแล้วและจ่ายเงินในส่วนที่เรียกเก็บมาแล้ว เรายังต้องจ่ายเงินส่วนใดอีกบ้างและหากวันที่ศาลนัดเราให้คนอื่นไปแทนได้หรือไม่เพราะผมทำงานที่ กทม แต่ศาลสั่งให้ไปประนอมหนี้ที่กระบี่ซึ่งเป็นที่อยู่ที่บ้านครับในส่วนของเงินที่เรียกเก็มมาเป็นจำนวนถึง เก้าแสนกว่าบาทซึ่งในส่วนนี้หากเราทำการคืนรถแล้วเขาจะให้เราจ่ายส่วนใดเพิ่มเติมบ้างครับเพราะเงินส่วนนี้เขาหักค่างวดที่เราส่งไปบ้างมั้ยและหากเราทำตาม 4 ข้อเบื้องต้นแล้วต้องมีค่าอื่นใดที่ต้องจ่ายอีกบ้างครับ

คืนรถให้ไฟแนนซ์ไปเถอะครับ ยอดหนี้จะได้น้อยลง ส่วนจำนวนหนี้ต่อรองกันได้ โดยตกลงกับเขาก่อนถ้าคืนรถ แล้วยอดหนี้จะเหลือเท่าใด ส่วนการไปศาลถ้าไม่สะดวกก็ให้ทนายหรือญาติไปแทนได้ ถ้าให้ญาติไปต้องมีหนังสือมอบอำนาจไปด้วย

เพิ่มเติมครับถ้าตอนนี้ผมมีเงินก้อนที่จะจ่ายให้ทางไฟแนนซ์สำหรับค่างวด 10 เดือนที่ค้างอยู่แล้วสามารถทำได้มั้ยครับหรือต้องไปคุยกันที่สาลอย่างเดียว

ไปคุยที่ศาลดีกว่า สัญญาเดิมไม่มีแล้วเขาบอกเลิกสัญญาไปแล้ว

แล้วถ้าผมคุยกะทางไฟแนนซ์และเคลียกันเรื่องที่จะจ่ายให้เขาเป็นเงินก้อนที่ค้างอยู่แล้วให้โจทย์ยกฟ้องจะได้หรือเปล่าครับ

ถ้ามีจ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ คืนรถเขาไป ส่านที่โจทก์จะถอนเรื่องไป เขาเรียกว่า [size=150%]ถอนฟ้อง[/size] มิใช่ยกฟ้อง

ขอบพระคุณ มากครับ